วันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
แตงกวา: ผักเครื่องเคียง มากคุณค่า
แตงกวา เป็นพืชไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง ลำต้นเป็นเถา ใบเป็นใบเดี่ยว หยาบ มีขน และมีมุมใบ 3 – 5 มุม ดอกมีสีเหลือง คนทั่วไปนิยมปลูกเพื่อนำผลมาทำเป็นอาหาร โดยเฉพาะเป็นเครื่องเคียงรับประทานกับน้ำพริก หรืออาหารจานเดียวอย่างข้าวผัด ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ฯลฯ และสามารถนำมาแปรรูปเป็นแตงกวาดองได้
แตงกวามีน้ำเป็นองค์ประกอบมากถึงร้อยละ 96 จึงมีคุณสมบัติแก้กระหาย และเพิ่มความชุ่มชื้น สาวๆ ที่รักสวยรักงาม จึงมักนำแตงกวามาฝานเป็นแว่นบางๆ วางบนผิวหน้าหรือบนเปลือกตา เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และบำรุงผิว นอกจากนี้ในแตงกวายังมีสารอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย เช่น ซิลิก้า ที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ กระดูก กระดูกอ่อน และเส้นเอ็น โพแทสเซียมและแมงกานีส ช่วยควบคุมความดันเลือดและความสมดุลของสารอาหารในร่างกาย แมกนีเซียมช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ และระบบการหมุนเวียนเลือด ที่สำคัญคือ แตงกวาเป็นพืชที่มีใยอาหารมาก จึงช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ช่วยกำจัดของเสียที่ตกค้างในร่างกาย รวมทั้งให้พลังงานต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
นอกจากคุณค่าทางอาหารแล้ว แตงกวายังมีสรรพคุณทางยาด้วย คือ ผลและเมล็ดอ่อน ช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาทและความจำ ช่วยลดอาการนอนไม่หลับ แก้กระหายน้ำ และมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ใบ ใช้แก้ท้องเสีย บิด เถา ช่วยลดความดันโลหิต และน้ำในแตงกวา ช่วยขับปัสสาวะ แก้ไข้ กระหายน้ำ
เป็นพืชผักสวนครัวที่มากไปด้วยคุณค่าอย่างนี้ เห็นทีคงต้องมอบบทนางเอกให้เสียหน่อยกับเมนู “ยำแตงกวา” อาหารโบราณที่รับประทานกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย
วันจันทร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
นานาประโยชน์จากฟักทอง
ฟักทองนั้นเป็นพืชที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงมากเมื่อเทียบกับผักผลไม้อื่นๆ อีกทั้งยังมีแคลอรีต่ำ จึงทำให้ฟักทองนั้นเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการควบคุมอาหาร ประโยชน์จากฟักทองนั้นได้มาจากหลายๆส่วน ไม่ใช่ได้มาจากเพียงผลฟักทอง อาทิเช่น
ใบฟักทอง
ใบอ่อนของฟักทองนั้นสามารถรับประทานได้ โดยมีการกินกันในหลายภูมิภาค เช่นในทวีปแอฟริกา รวมถึงในประเทศไทยเองด้วย ใบฟักทองอุดมไปด้วยธาตุสังกะสี เหล็ก แคลเซียม และยังมียอดฟักทองที่ให้วิตามินเอสูงมาก และเนื่องจากวิตามินเอละลายในน้ำมัน การผักยอดฟักทองกับน้ำมันจึงเหมาะสมที่สุด เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ดี
ผลฟักทอง
เป็นทรงแบน สีเขียวเข้ม เนื้อในสีเหลืองส้ม ผลฟักทองเป็นที่นิยมในการประกอบเป็นอาหารชนิดต่างๆไปทั่วโลก เช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการนำไปอบ ย่าง บดใส่ซุป ในบราซิลและแอฟริกามักทำเป็นซุป ในญี่ปุ่นนำมาทำเป็นเทมปุระ ซึ่งก็คือการชุบแป้งทอด และในประเทศไทยบ้านเรามีการนำมาประกอบอาหารหลากหลาย ทั้งผัดใส่ไข่ แกงเผ็ดฟักทอง
น้ำจากเนื้อฟักทองช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
จากงานวิจัยในจีน พบว่าน้ำตาลโพลีแซคคาไรด์จากโปรตีนในเนื้อฟักทองมีฤทธิ์ช่วยลดน้ำตาลในกระแสเลือดได้ น้ำตาลชนิดนี้ละลายได้ในน้ำคั้นผลฟักทอง นักวิทยาศาสตร์ได้ทดสอบกับหนูที่เป็นเบาหวาน ได้ผลออกมาว่าระดับอินซูลินเพิ่มขึ้น น้ำตาลในเลือดลดลง อีกทั้งยังเพิ่มการทนต่อกลูโคส และยังพบอีกว่า สารสกัดน้ำตาลชนิดนี้ในปริมาณที่เหมาะสมนั้นดีกว่าปริมาณที่ต่ำเกินไปและดีกว่ากลุ่มที่ได้รับยาเบาหวานอีกด้วย
เมล็ดฟักทอง
มักทานเป็นอาหาร ขนมขบเคี้ยว ด้วยการคั่ว อุดมไปด้วยแร่ธาตุเหล็ก สังกะสี โพแทสเซียม แมกนีเซียม กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายชนิดต่างๆ
น้ำมันเมล็ดฟักทอง
มักใช้ในการปรุงอาหารในแถบประเทศยุโรปตะวันออก และยุโรปตอนกลาง น้ำมันเมล็ดฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินอี กรดไขมันไม่อิ่มตัว น้ำมันเมล็ดฟักทองก็มีประโยชน์หลายอย่าง สามารถป้องกันต่อมลูกหมากโต ลดปริมาณน้ำตาลในเลือด ซึ่งมีประสิทธิภาพมากในผู้ป่วยเบาหวาน ลดความดันเลือด ลดคอเลสเตอรอล ช่วยบรรเทาโรคปวดข้อเข่า และยังใช้ในผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เต้านม ปอด ลำไส้ใหญ่อีกด้วย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)