วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2561

โหระพา สรรพคุณทางยาที่คาดไม่ถึง



ใบโหระพา เป็นแหล่งเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการป้องกันโรค เช่น โรคหัวใจขาดเลือดและมะเร็ง โหระพา 1 ขีด มีเบต้าแคโรทีนสูง คือ 452.16 ไมโครกรัม ใบโหระพามีกลิ่นเฉพาะใช้เป็นผักสด ใช้ปรุงแต่งกลิ่นอาหารและมีธาตุแคลเซียมสูงด้วย

นอกจากจะเป็นอาหารแล้ว โหระพายังเป็นสมุนไพรด้วย เพราะมีสรรพคุณทางยาอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

1. แก้ไข้ ปวดศรีษะ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ ขับพยาธิ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย ช่วยเจริญอาหาร โดยใช้ยอดอ่อนต้มกับน้ำรับประทานเป็นชาหรือรับประทานเป็นผักสด

2. ใช้เป็นยาขับปัสสาวะและยาระบายอ่อน ๆ เพื่อแก้อาการท้องผูก โดยนำเมล็ดแก่แช่น้ำให้พองตัวเต็มที่รับประทานกับขนมหวานโดยผสมกับน้ำหวานและน้ำแข็ง


3. ใช้รักษาอาการเหงือกอักเสบเป็นหนอง โดยบดใบโหระพาแห้งให้เป็นผงทาบริเวณที่เป็น

4. บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน โดยคั้นน้ำจากใบโหระพาสด ประมาณ 1ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำอ้อย 2ช้อน รับประทานวันละ 2ครั้ง พร้อมกับน้ำอุ่น

5. แก้สะอึก โดยใช้ใบโหระพาสดหรือแห้งพร้อมขิงสดแช่ในน้ำเดือดรับประทานในขณะที่น้ำยังร้อน

6. น้ำมันโหระพาสามารถฆ่ายุงและแมลงได้

7. เมล็ดแก่แช่น้ำใช้พอกแผลบรรเทาอาการฟกช้ำ


น้ำมันโหระพา

น้ำมันโหระพา เป็นน้ำมันหอมระเหยที่พบในใบโหระพามีร้อยละ 1.5 องค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญ คือ Methylcha vicol และสกัดได้จากใบโหระพาพันธุ์ไทย โดยการกลั่นด้วยไอน้ำ เป็นของเหลวใสสีเหลืองอ่อน หรือเหลืองอมน้ำตาลปราศจากตะกอนและสารแขวนลอย ไม่มีการแยกชั้นของน้ำ มีกลิ่นเฉพาะตัว มีคุณสมบัติแก้จุกเสียดแน่นท้อง


การใช้เป็นยาสมุนไพร

โหระพามีสรรพคุณทางยาสมุนไพรที่หลากหลาย ใบสดของโหระพามีสรรพคุณแก้ท้องอืด เฟ้อ ขับลมจากลำไส้ ต้มดื่มแก้ลมวิงเวียน ช่วยย่อยอาหาร ใช้ตำพอกหรือประคบแก้ไขข้ออักเสบ แผลอักเสบ ต้มใบและต้นสดเข้าด้วยกัน ต้มเอาน้ำดื่ม แก้หวัด ขับเหงื่อ ถ้าเด็กปวดท้อง ใช้ใบโหระพา 20 ใบ ชงน้ำร้อนและนำมาชงนมให้เด็กดื่มแทนยาขับลมได้ ใบโหระพาแห้งต้มกับน้ำ มีสรรพคุณต้านเชื้อก่อโรค

วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

กินมะเขือเทศอย่างไร??ให้ได้ประโยชน์สูงสุด



น้ำมะเขือเทศ เป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณหลากหลาย และมีสารอาหารสำคัญมากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของผิวสวย น้ำมะเขือเทศจึงเป็นเครื่องดื่มที่คุณผู้หญิงทั้งหลายนิยมดื่มกันมาก นอกจากการบำรุงผิวแล้วน้ำมะเขือเทศยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีกมากมาย โดยสารหลักที่เป็นประโยชน์ของ มะเขือเทศ ก็คือ "ไลโคปีน" มีมากใน มะเขือเทศ และแตงโม เป็นสารชนิดหนึ่งที่ช่อยต่อต้านอนุมูลอิสระ และจำเป็นในทุกช่วงอายุของคนเรา

ช่วงนี้กระแสการดื่มน้ำ มะเขือเทศ กำลังมาแรง ด้วยคุณสมบัติที่ว่า ดื่มแล้วขาว ดื่มแล้วสวย ดื่มแล้วผิวพรรณดี แบบนี้คุณผู้หญิงทั้งหลายก็หูผึ่ง ตามหาน้ำมะเขือเทศมาดื่มตามกันเป็นแถวๆ หากแต่บางคนก็ยังสงสัยว่าสรรพคุณที่หลายคนเอ่ยอ้างนี้จะเป็นความจริงหรือเปล่า ก็เลยขอนำข้อมูลดีๆเกี่ยวกับมะเขือเทศมาฝากกัน

วิธีทานมะเขือเทศให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

ส่วนใหญ่ในการรับประทานผัก หากต้องการให้ได้แร่ธาตุและวิตามินครบถ้วนก็มักจะต้องทานแบบดิบๆ แต่มะเขือเทศไม่เป็นเช่นนั้น การทานมะเขือเทศเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ต้องทำให้มะเขือเทศสุกเสียก่อน เนื่องจากมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนแล้ว จะทำให้ไลโคปีนกับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศหลุดออกจากกันได้ง่าย ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ได้ดีกว่ากินแบบไม่ผ่านความร้อน อีกทั้งไลโคปีนนั้นสามารถละลายได้ดีในน้ำมัน ดังนั้นหากเราใช้น้ำมันในการปรุงมะเขือเทศ จะยิ่งทำให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนดียิ่งขึ้น

แต่ก็ใช่ว่าทานมะเขือเทศแบบสดจะไม่ดี

เพราะในมะเขือเทศก็มีวิตามินซีสูงเช่นกัน ดังนั้นหากต้องการวิตามินซีสูง มีใยอาหาร ทำให้ผิวพรรณดี ก็รับประทานสด แต่ถ้าต้องการให้ร่างกายได้รับสารไลโคปีนมากๆก็รับประทานที่ผ่านความร้อนมาแล้วได้เช่นกัน สรุปแล้วมะเขือเทศมีคุณค่าน่ารับประทานยิ่งนักส่วนใครที่ชอบดื่มเป็นน้ำมะเขือเทศก็อย่าดื่มมากเกินวันละ 2 แก้ว เพราะเดี๋ยวโรคนิ่วจะถามหาเอาได้

นอกจากเรื่องการทานมะเขือเทศที่ปรุงสุกแล้วจะได้ประโยชน์สูงสุด เรื่องเพศที่ทานมะเขือเทศก็สำคัญโดยผู้หญิงควรทานมะเขือเทศสดเพราะจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซี และใยอาหารมากทำให้ผิวสวย ส่วนผู้ชายควรทานมะเขือเทศสุกเพื่อให้ร่างกายได้รับสารไลโคปีนมากๆ เพื่อช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก

ดื่มน้ำมะเขือเทศอย่างไรให้ถูกต้อง และมีประโยชน์

อย่างที่ได้ทราบกันไปแล้วว่ามะเขือเทศต้องทานแบบปรุงสุกก่อน(ผ่านความร้อน) จึงจะได้โลโคปีนมากสุด แต่ถ้าอยากดื่มเป็นน้ำมะเขือเทศเพื่อให้ได้ประโยชน์มากสุดนั้น เราจำเป็นต้องกำหนดช่วงเวลาดื่มน้ำมะเขือเทศ เพื่อให้ร่างกายนำสารอาหารจากน้ำมะเขือเทศไปใช้งานได้ดีที่สุด โดยสามารถแบ่งออกได้ 2 ช่วงเวลาคือ

1. ดื่มก่อนทานอาหารในช่วงท้องว่าง อาจจะหยดน้ำมันเล็กน้อยลงไปในน้ำมะเขือเทศ จะทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น

2. ดื่มหลังอาหารในทันที เพราะไขมันในอาหารจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้ดีมากขึ้น

ผู้ที่ห้ามดื่มน้ำมะเขือเทศ

ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกินมะเขือเทศได้ประโยชน์ทั้งหมด เพราะว่ามะเขือเทศเป็นผักผลไม้ ที่มีธาตุโพแทสเซียมสูงมาก ดังนั้นผู้ที่ไม่ควรทานมะเขือเทศเลย ไม่ว่าจะแบบสด หรือปรุงสุก ก็คือผู้ที่กำลังป่วยเป็นโรคไต หรือผู้มีโพแทสเซียมในเลือดสูง เพราะร่างกายจะมีปัญหาได้หากขับโพแทสเซียมออกไม่ได้หมด นอกจากนี้คนที่มีภาวะกรดไหลย้อนก็ไม่ควรทานมะเขือเทศมากเกินไป เพราะมะเขือเทศมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ จะยิ่งทำให้อาการ

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการดื่มน้ำมะเขือเทศแบบกล่อง ก็ยังต้องเลือกดื่มอย่างระมัดระวัง เพราะอาจจะมีการเติมโพแทสเซียมลงไป ดังนั้นควรดูตารางโภชนาการของกล่องน้ำมะเขือเทศด้วย โดยควรเลือกน้ำมะเขือเทศที่มีโซเดียมต่ำ ไม่เช่นนั้นแล้วร่างกายอาจจะได้รับโซเดียมมากไป ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่นๆ ได้

วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561

รู้มั้ย!!ผักบุ้งประโยชน์ที่มีดีมากกว่าบำรุงสายตา



ผักที่สามารถหาได้ง่าย และมีราคาถูก สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัดหรือแกง แต่ประโยชน์ของผักบุ้งไม่ได้น้อยตามราคาที่ถูกแต่อย่างใด และยังเป็นอาหารที่นิยมรับประทานในการลดน้ำหนัก เพราะให้พลังงานน้อย ผักบุ้ง 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 22 กรัมเท่านั้น โดยผักบุ้งที่ทานในประเทศไทยแบ่งเป็น 2 พันธุ์ คือผักบุ้งไทย และผักบุ้งจีน ที่นิยมรับประทานมากกว่าคือผักบุ้งจีน เพราะจะมียางน้อยกว่า

ประโยชน์ของผักบุ้ง

👉 ผักบุ้งมีสรรพคุณอย่างมากมาย แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือเรื่องของการบำรุงสายตา เนื่องจากผักบุ้งเป็นผักที่วิตามินเอสูงมาก ช่วยลดความเสี่ยงเกี่ยวการเป็นต้อ สายตาสั้น อาการคันบริเวณตา และตาแดง นอกจากนี้ผักบุ้งยังมีสารที่ช่วยในการต่อต้าน อนุมูลอิสระ ช่วยในการชะลอวัย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเซลล์มะเร็งอีกด้วย

👉 ผักบุ้งยังให้ใยอาหารในปริมาณที่สูง ช่วยให้อิ่มท้องนาน ยังช่วยในเรื่องการกำจัดของเสียในลำไส้ มีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และยังลดความเสี่ยงในการเกิดอาการท้องผูกอีกด้วย

👉 ในด้านของระบบประสาทและสมอง การรับประทานผักบุ้งจะช่วยในเรื่องของการเรียนรู้ และความจำ นอกจากนี้ยอดผักบุ้งยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคประสาทอีกด้วย

👉 รากที่เรามักจะตัดทิ้งก่อนจะรับประทาน ก็มีสรรพคุณทางยา ใช้แก้โรคหอบหืด บรรเทาอาการไอเรื้อรัง และยังช่วยลดอาการตกขาวในสตรีอีกด้วย นำรากผสมน้ำส้มสายชู ค้นมาบ้วนปาก ช่วยบรรเทาอาการปวดจากฟันผุได้อีกด้วย

👉 ในส่วนของต้นผักบุ้งสด มีสรรพคุณเป็นยาเย็น ช่วยในการดับร้อน แก้อาการร้อนใน และยังมีสรรพคุณในการบำรุงโลหิตอีกด้วย หากต้องการใช้ในการรักษาแผลร้อนในภายในช่วงปากให้นำผักบุ้งสดกับเกลือ อมไว้ในปากสองนาที วันละสองครั้ง และถ้าเป็นผักบุ้งไทยสามารถช่วยลดอาการบวม พุพองได้ รักษาแผลน้ำร้อนลวก และแก้อักเสบได้อีกด้วย

👉 ผักบุ้งยังมีสรรพคุณในการถอนพิษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสารพิษจากสารเคมีจำพวกยาฆ่าแมลง หรือแม้กระทั่งพิษจากตะขาบ นำต้นผักบุ้งสดมาผสมกับเกลือนำมาตำแล้วนำไปพอกบริเวณที่ถูกกัด แก้พิษจาการเบื้อเมา

👉 ผักบุ้งยังมีสรรพคุณอื่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยในเรื่องการขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะเหลือง และคุณสมบัติอีกอย่างหนึ่งที่ใครๆไม่คาดคิดคือสามารถใช้บำบัดผู้ติดยาเสพติดได้อีกด้วย


ผักบุ้งจึงถือเป็นผักสวนครัว ที่ปลูกง่าย มีราคาถูก ในชนบทสามารถหาเก็บได้ทั่วไปเสียด้วยซ้ำ แต่ใครจะรู้ว่าผักชนิดนี้กับมีคุณค่าทางอาหาร และสรรพคุณทางยาแฝงไว้อย่างมากมาย และเหตุผลที่ผักบุ้งมักจะถูกใส่ไว้ในอาหารเวลารับประทานที่ร้านอาหาร เพราะผักชนิดนี้มีสรรพคุณช่วยให้เราเจริญอาหารมากขึ้นนั่นเอง สำหรับเมนูผักบุ้งที่เรานิยมนำมาทำอาหารนั่นก็คือ ผัดผักบุ้งไฟแดง ซึ่งเป็นเมนูที่สามารถหาทานได้ง่ายและมีรสชาติที่อร่อย

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ประโยชน์จากไข่ไก่ที่คุณอาจไม่เชื่อ


เป็นที่ทราบกันดีว่า "ไข่ไก่" ถือเป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่มีคุณค่า หาได้ง่าย ราคาถูก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อยู่ในวัย กำลังเจริญเติบโต ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับคุณค่าสารอาหารจากไข่ไก่ เนื่องจากมีประโยชน์ที่จำเป็นหลายอย่าง เช่น โปรตีน วิตามิน แคลเซียม และธาตุเหล็ก ส่วนผู้ใหญ่อย่างเราๆก็ควรหันมาบริโภคไข่ไก่ด้วยเช่นกัน เพราะมีท่านที่กังวลว่าการทานไข่ไก่ จะเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดผลร้ายต่อสุขภาพ เช่น ระดับคอเลสเตอรอลสูง หรือเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหัวใจ แต่เชื่อว่าหลังจากอ่านข้อมูลทั้งหมดแล้ว.ต้องมีหลายคนที่รีบไปซื้อไข่ไก่ มาตุนไว้ทานแน่ๆ เพราะมีงานวิจัย หลายชิ้นที่มีสมมติฐานของผู้วิจัยเริ่ม มาจากเจ้าไข่ไก่ฟองรีๆ ที่มักตกเป็นจำเลยโดยไม่รู้ตัวอย่างงานวิจัยชิ้นแรกที่มาจากมหาวิทยาลัย Harvard โดย Harvard Nurse' Health Study and the Health Professionals Follow Up Study ที่ระบุว่า การทานไข่ไก่ไม่ได้ทำให้ ระดับคอเลสเตอรอลสูง หรือหลอดเลือด อุดตัน และไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของ การเกิดโรคหัวใจ แต่โรคที่ว่ากลับเกิดเพราะการทานอาหารไขมันสูงชนิดอื่น อย่าง นม เนย เป็นต้น


อีกทั้งทีมนักวิจัยยังพบอีกว่า การทานไข่ไก่ยังจะช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ อย่างโรคหัวใจ หรือโรคสมองเสื่อมได้อีกด้วย เพราะไข่ไก่ อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากมาย อาทิ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่รู้ กันดีว่า "ช่วยชะลอความแก่" รวมทั้งวิตามินบี ที่ช่วยเรื่องของกล้ามเนื้อ ป้องกันโรคเหน็บชา และไขมันไม่อิ่มตัว ที่ช่วยลดผลกระทบ จากคอเลสเตอรอล ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า ผลงานวิจัยยังตรงกับ สมาคมโรค หัวใจของสหรัฐอเมริกา (American Heart Association หรือ AHA) ที่พบว่าการทานไข่ไก่ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ด้วยเหตุนี้จึงได้ออกมาเปลี่ยนคำแนะนำในการทานไข่ที่จากเดิมแนะนำให้ทานได้ ไม่เกินอาทิตย์ละ 3 ฟอง เป็น "สามารถทานได้วันละไม่เกิน 1 ฟอง"


นอกจากนี้รู้หรือไม่ว่าไข่ไก่ ใบเล็กๆ กลมๆ แค่นี้จะบรรจุโคลีน (Choline) ไว้ในระดับสูง ซึ่ง โคลีนจัดเป็นสารอาหารที่จำเป็น ต่อการสร้างเซลล์สมอง เริ่มตั้งแต่เป็นทารกอยู่ในครรภ์เรื่อยไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย และยังทำหน้าที่เป็นสารสื่อนำประสาทช่วยให้การทำงานของสมองเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ และที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ หลายชิ้นงานต่างระบุผลวิจัย ที่ตรงกันว่า โคลีน มีผลต่อประสิทธิภาพความจำและความสามารถในการเรียนรู้ ของคน รวมทั้งสัตว์หลายชนิด และช่วยชะลอการสูญเสียความทรงจำในผู้สูงอายุ เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดการเสื่อมของเซลล์สมอง สาเหตุสำคัญของโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer) นี่จึงเป็นมูลเหตุสำคัญที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารกำหนดให้โคลีนเป็นสารอาหารจำเป็นที่คน ทุกเพศทุกวัยต้องบริโภค ซึ่งหลายงานวิจัยสรุปผลเช่นเดียวกันว่า ไข่แดงของไข่ไก่จัดเป็นอาหารที่ให้โคลีนมากที่สุดชนิดหนึ่ง เท่ากับว่าไข่ฟองเล็กๆ ก็ช่วยต้านโรคอัลไซเมอร์ได้